“Football, bloody hell” – เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแห่งค่ายปีศาจแดง กล่าวไว้หลังเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่ทีมพลิกนรก แซงชนะ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในเกมที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นหนึ่งในแมตช์แห่งความทรงจำตลอดกาลแห่งโลกฟุตบอล
นัยยะของประโยคนั้น คือความบ้าระห่ำชนิดไม่ต้องการเหตุผล อันเป็นมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่ทำให้คนทั่วโลกหลงรักในเกมลูกหนัง
อีกคำพูดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในวงการฟุตบอลคือ “บางครั้งทีมที่ดีกว่า ก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะเสมอไป” วินาทีนี้ “โค้ชซิโก้” และลูกทีมทุกคน รวมไปถึงแฟนฟุตบอลชาวไทย คงเข้าใจความหมายได้ดีที่สุด

เกมส์ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก จบลงด้วยชัยชนะของขุนพล “อิเหนา”แบบหักปากกาเซียน 2-1
ตลอดเกม หรืออันที่จริงตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ “ทีมช้างศึก” ของเราก็แสดงผลงานความเหนือชั้นออกมาทุกนัด แม้จะมีบางนัดที่ทำได้แค่เฉือนชนะ 1-0 บ้างก็ตาม
หากแต่สิ่งที่แสดงให้เห็นมาโดยตลอดคือคำว่า “คลาส” ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ตามที่แฟนๆอาร์เซน่อลเคยกล่าวไว้ “Form is temporary, Class is permanent” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆว่า ฟอร์มการเล่นอาจมีขึ้นมีลง แต่คลาสบอลนั้น อยู่ยั้งยืนยง

ฉะนั้นและฉะนี้ ความพ่ายแพ้ในนัดแรกต่อ “ขุนพลการูด้า” มันเป็นเพียงอุบัติเหตุทางฟุตบอลเท่านั้น เกมที่ 2 ในวันเสาร์นี้ แชมป์ก็น่าจะเป็นของเราอยู่ดี
กระทั่งในเกมแรกที่แพ้ไป ลูกทีมของโค้ชซิโก้ก็เล่นได้ดีกว่าอยู่เกือบทั้งเกม แต่ด้วยความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเพียงไม่กี่ครั้ง หรือบางคนอาจจะโทษดวง ทำให้ทัพช้างศึกต้องพลาดเสีย 2 ประตู จนต้องพบกับความพ่ายแพ้ในที่สุด
แต่บางคนก็แสดงข้อคิดเห็นที่น่าสนใจเหมือนกันว่า ในความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ก็ยังมีเรื่องดีๆให้พูดถึงอยู่บ้าง คือมันอาจไปปลุกแข้งช้างศึก ที่ดูเหมือนจะขาดความกะเหี้ยนกะหือรือ ขาดความกระหาย ขาดแรงกระตุ้น มาตั้งแต่เกมแรกในทัวร์นาเมนต์แล้ว

อาจจะด้วยความอิ่มตัวในระดับอาเซียน ที่แข้งชุดนี้ผ่านการคว้าแชมป์มาแล้วแทบทั้งสิ้น แถมยิ่งเล่นยิ่งเห็นว่า เราเหนือกว่าจริงๆ
หากลองสังเกตดูการให้สัมภาษณ์ของโค้ชซิโก้แทบทุกครั้งจะเน้นคำว่า “อย่าประมาท”
แม้เราจะเหนือกว่าแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่สู้ในเกมแรก เราได้เห็นขุนพลอิเหนา ลงเล่นด้วยหัวใจเต็มร้อย บางรายถึงขั้นหลั่งน้ำตากับชัยชนะหลังจบเกม
บางทีความพ่ายแพ้ในเกมนั้น อาจจะช่วยปลุกความกระหายให้ลูกทีมของโค้ชซิโก้ได้บ้าง
เพราะในเกมแรกที่แพ้ไปนั้น แววตาของแต่ละคน ช่างต่างกับเมื่อ 2 ปีก่อนเหลือเกิน…

