“อาโนเอต้า” ที่นี่คืออาถรรพ์ ?

148

 

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บาร์เซโลนา ยอดทีมแห่งสเปน ประสบความสำเร็จ กวาดโทรฟี่มาฝากเหล่าสาวก “อาซูลกราน่า” มากมายก่ายกอง

เอาเป็นว่า ไล่เรียงให้ดูซะเลยครับ ช่วง 10 ปีนี้ (2006-2016) พวกเขาคว้าแชมป์ลาลีกา 6 สมัย, โคปา เดล เรย์ 4 ครั้ง, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 หน และแชมป์เมเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย รวมกันแล้วไม่น่าต่ำกว่า 20 โทรฟี่

แถมยังเป็นสโมสรเดียวในทวีปยุโรป ที่คว้า “เทรบเบิล” ที่หมายถึงได้ 3 แชมป์ใหญ่ที่สุด ภายในฤดูกาลเดียวถึง 2 เที่ยว (2008-09 และ 2014-15)

เวลาที่ “บาร์ซ่า” ออกไปเยือนทีมใหญ่อย่าง 2 ทีมกรุงมาดริด พวกเขาก็เคยบุกมาชนะถึงบ้านได้บ่อยครั้ง (นับเฉพาะลาลีกา เรอัล 5 หน, แอตเลติโก้ 6 ครั้ง)

ถึงแม้ว่าเจ้าบุญทุ่มแห่งถิ่นคัมป์ นู จะเก่งกาจขนาดไหน แต่ทว่า พวกเขาไม่เคยบุกไปชนะ เรอัล โซเซียดัด คู่แข่งที่จะพบกันในคืนนี้ มาเป็นเวลา 10 ปี เข้าไปแล้ว

ใช่แล้วครับ ผมหมายถึง สนาม เอสตาดิโอ มูนิชิปาล อาโนเอต้า สังเวียนอาถรรพ์ของ บาร์ซ่า นั่นเอง

โซเซียดัด แพ้บาร์ซ่าในบ้านตัวเอง ครั้งล่าสุด เมื่อ 5 พฤษภาคม 2007 ซึ่งฤดูกาลนั้น ทีมจากแคว้นบาสก์ ตกชั้นด้วยการเป็นรองบ๊วยของตาราง (บาร์เซโลน่า คุมทีมโดย แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด) เล่นในเซกุนด้า ลีกา อยู่ 3 ฤดูกาล โซเซียดัด ก็กลับขึ้นมาเล่นลาลีกาอีกครั้ง

แต่บาร์ซ่า ก็ไม่เคยบุกไปชนะได้เลย แม้แต่ครั้งเดียว ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว กับเทรนเนอร์ 4 คน ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่า “บอลแพ้ทาง” จริงๆ

ถ้าไปดูสถิติตลอด 10 ปีที่ไม่ชนะในสนามปราบเซียนแห่งนี้ บาร์ซ่าได้ผลเสมอกลับมาแค่ 2 ครั้ง (ลาลีกา 1, โคปา เดล เรย์ 1) และแพ้ถึง 5 ครั้ง แถมเป็นการแพ้ 4 ปีติดต่อกัน อีกด้วย

ช่วง 2 ปีสุดท้ายของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีมมาเยือนที่นี่ 2 นัด เก็บได้ 1แต้ม

ยุคของ ตีโต้ บีลาโนบา กุนซือผู้ล่วงลับ และ ตาต้า มาร์ตีโน่ มาเยือนคนละ 1 นัด แพ้ทั้งคู่

ฤดูกาล 2014-15 ซีซั่นแรกของหลุยส์ เอ็นริเก้ กับเจ้าบุญทุ่ม ยังแพ้โซเซียดัด ที่มีโคตรกุนซือฝืมือดี (ตรงไหน ?) อย่าง เดวิด มอยส์ จนเป็นข่าวใหญ่ระดับจักรวาลเลยมั้ง 555

และล่าสุด ฤดูกาลที่แล้ว ก็มาแพ้ที่นี่ ซึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น บาร์ซ่า เพิ่งแพ้ เรอัล มาดริด คาบ้านมาด้วย!

เป็นสถิติที่น่าสยดสยองจริงๆ

แล้วงานของบาร์ซ่าในคืนนี้ จะยากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะเรอัล มาดริด น่าจะไม่พลาด มีชัยเหนือ สปอร์ติ้ง กิฆอน เมื่อวันเสาร์ (ขณะปั่นต้นฉบับยังไม่ทราบผล)

แถมโซเซียดัด ฤดูกาลนี้ ผลงานดี 4 นัดหลังสุด ชนะรวด อยู่ที่ 5 ของตาราง และมีคะแนนตามหลังบาร์ซ่าแค่ 4 คะแนน เท่านั้น

ล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งปราบทีมลุ้นแชมป์อย่าง แอตเลติโก้ มาดริด 2-0 มาด้วย ยิ่งเพิ่มความมั่นใจเข้าไปอีก

หมายความว่า ถ้าคืนนี้ เจ้าบุญทุ่ม รถผ้าป่าคว่ำ แพ้กลับมาละก็ น่าจะโดนคู่ปรับอย่าง เรอัล มาดริด หนีห่าง 7 แต้ม และจะโดนโซเซียดัด ทำคะแนนจี้เหลือ 1 คะแนน เท่านั้น

และที่สำคัญ หลังจากผ่านสัปดาห์นี้แล้ว สัปดาห์หน้าหนักยิ่งกว่า เพราะจะต้องทำศึก “เอล กลาซิโก้” กับเรอัล มาดริด ที่ยังไม่แพ้ใครกว่า 30 นัด รวมทุกรายการ

ถ้าแพ้ราชันชุดขาวอีกนัด จะโดนทิ้ง 10 คะแนน การลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ อาจจะจบเร็วเกินคาด

อูยส์ส์… คิดแล้วสยองครับ งานของบาร์ซ่าปีนี้ หนักแน่ๆ

พูดถึงเรื่องโซเซียดัด แล้ว จะไม่กล่าวถึง เดี๋ยวจะหาว่า ใจร้ายเกินไป

สาเหตุที่ทีมดังจากแคว้นบาสก์ ทีมนี้ ทำผลงานดีในฤดูกาลนี้ มีทั้งเหตุผลในสนาม และ นอกสนามครับ

ในสนาม โซเซียดัด มีกองหน้าที่ไว้ใจได้อย่าง วิลเลี่ยน โจเซ่ ดาวยิงชาวบราซิลวัย 24 ปี ที่เพิ่งซื้อมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ ยิงไปแล้ว 6 ประตู นำดาวซัลโวของสโมสรในเวลานี้

และยังมีคาร์ลอส เวล่า เด็กเก่าอาร์เซน่อล ตามมาติดๆ ที่ 4 ประตู รวมถึง 2 กองหน้าชาวสเปนอย่าง ซาเบียร์ ปริเอโต้ กับ ดาวิด ซูรูตูซ่า ที่ซัลโวไปคนละ 3 ประตู

4 คนนี้ ช่วยโซเซียดัด ยิงไปรวมทั้งหมด 16 จาก 21 ประตูที่ทีมทำได้ในตอนนี้

ส่วนเหตุผลนอกสนาม ว่ากันว่า เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ทางสโมสร แสดงความมีน้ำใจ ด้วยการรับชายไร้บ้านคนหนึ่ง ที่อาศัยหลับนอนอยู่ชายคาสนามเหย้าของพวกเขา มาเป็นผู้ดูแลรักษาพื้นสนาม และยาม ให้กับสโมสรนี้

มิน่าล่ะ 4 นัดหลังสุด เก็บ 12 คะแนนเต็ม มีลุ้นไปยุโรป ก็อาจเป็นเพราะความ “ใจบุญ” นี่เอง

แต่สำหรับบาร์ซ่าแล้ว สถิติเลวร้ายที่ผ่านมานั้น เชื่อว่า มันจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน ไม่วันใด ก็วันหนึ่ง ซึ่งมันอาจจะเป็นนัดนี้ ก็ เป็น ได้…

คืนนี้ แฟนบอลอาซูลกราน่า คงต้องลุ้นกันอย่างหนัก เพื่อทำลายสถิติอาถรรพ์นี้ให้ได้ นะครับ