โจว ไถ-อิง ซึ่งรับหน้าที่โค้ชทีมฟุตบอลหญิง โดนสื่อไต้หวันตั้งฉายาว่า “โค้ชแวมไพร์” เนื่องจากช่วงที่เธอสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยครูแห่งชาติไต้หวัน โดนกล่าวหาว่าบังคับให้นักศึกษาบริจาคเลือดหลายครั้งติดต่อกันหลายวัน โดยอ้างว่ายอดบริจาคเหล่านี้เกี่ยวข้องกับหน่วยกิตของมหาวิทยาลัย 32 หน่วยกิตที่จำเป็นต่อการจบการศึกษา
จากกรณีดังกล่าวทำให้นักศึกษาบางคนซึ่งหวาดกลัวว่าจะไม่สามารถเรียนจบหากไม่ทำตามคำสั่งของโค้ช ต้องจำใจเข้ารับการบริจาคเลือดหลายร้อยครั้งภายในเวลาไม่กี่วัน บางคนระบุว่าเจ้าหน้าที่เก็บเลือดไม่สามารถหาเส้นเลือดที่จะใช้เจาะได้อีกแล้ว
เรื่องราวฉาวโฉ่เริ่มมาจากหนึ่งในเหยื่อซึ่งเป็นนักศึกษาที่มีนามสกุลว่าเจียน ที่ออกมาแฉ โค้ชโจว ว่าเอาเปรียบนักศึกษาคนอื่นๆ โดยระบุว่าช่วงที่เธอเรียนอยู่ที่มหาวิทยาดังกล่าวโค้ชฟุตบอลรายนี้บังคับให้เธอบริจาคเลือดมากกว่า 200 ครั้ง เพื่อแลกกับหน่วยกิตของรายวิชา
ยิ่งไปกว่านั้นการบริจาคเลือดเหล่านี้ถูกเก็บโดยบุคลากรที่ไม่ได้รับการฝึกอบรม ซึ่งเรียกว่าการทดลองวิจัยภายในมหาวิทยาลัย โดย เจียน กล่าวว่า “บางครั้งการเก็บตัวอย่างเลือดเป็นไปอย่างต่อเนื่องนานถึง 14 วัน บางครั้งถึงสามครั้งต่อวัน ตั้งแต่ตี 5 จนถึงสามทุ่ม”
“จากการเก็บเลือดติดต่อกัน 8 วัน พวกเขาแทบจะหาเส้นเลือดในแขนทั้งสองข้างไม่เจอ พวกเขายังลองที่ข้อมือของฉันแต่ก็ล้มเหลว มันทรมานมาก ฉันแทบรับไม่ไหว ต้องพยายามถึงหกครั้งก่อนที่พวกเขาจะทำสำเร็จ!” สาวเจียน ระบุ
ตามคำกล่าวหาของเจียน การบริจาคเลือดเหล่านี้เชื่อมโยงกับหน่วยกิตทางวิชาการ 32 หน่วยกิตที่จำเป็นต่อการสำเร็จการศึกษา ดังนั้นนักศึกษาที่ปฏิเสธมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถเรียนจบหรืออาจถูกไล่ออก
สำหรับเรื่องอื้อฉาวนี้ทำให้นักศึกษาคนอื่นๆ กล้าออกมาแฉโค้ชฟุตบอลวัย 61 ปี โดยมีอีกรายระบุว่าเคยต้องลาพักการเรียนเพราะถูกโค้ชคุกคามและข่มเหงเป็นเวลานาน
หลังจากเกิดความขัดแย้งในระดับประเทศ ทางมหาวิทยาลัยประกาศปลด โจว ออกจากตำแหน่งผู้บริหารและโค้ชฟุตบอล พร้อมทั้งเผยแพร่จดหมายขอโทษที่เขียนด้วยลายมือของโค้ชบนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย