“เมสซี่” ที่ไม่มีความสุขกับทีมชาติ

125

 

การเป็นนักฟุตบอลระดับโลก จุดสูงสุดของอาชีพคงเป็นการกวาดทุกความสำเร็จทุกถ้วยรางวัลที่มีทุกใบในโลกมาครอบครอง ซึ่งนักเตะอย่าง “ลีโอเนล เมสซี่” ถ้าถามว่าในระดับสโมสร แชมป์ “ลา ลีกา” 8 ครั้ง “โคปา เดล เรย์” 4 ครั้ง “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” 4 ครั้ง หรือแม้กระทั้งแชมป์สโมสรโลกอีก 4 ครั้ง คงไม่มีใครความท้าทายใดๆเหลืออยู่บนปฐพีนี้แล้ว

แต่ไม่น่าเชื่อว่านักเตะวัย 29 ปีคนนี้ ไม่เคยประสบความสำเร็จใดๆทั้งสิ้นกับทีมชาติของตัวเอง อย่าง “อาร์เจนติน่า” นอกจากฟุตบอลระดับเยาวชนกับแชมป์โอลิมปิกในปี 2008 ทั้งๆที่ทีมฟ้าขาวคือหนึ่งในยอดทีมชั้นนำในวงการลูกหนังโลกปัจจุบัน ที่ทุกยุคทุกสมัยมีนักเตะดีๆผลัดใบขึ้นมาแบบไม่ขาดสาย

ยิ่งไปกว่านั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ใจของเจ้าตัวเอง ดูเหมือนแทบไม่เหลือความท้ายหรือความหวังอะไรกับการเล่นทีมชาติเลย นอกจากเล่นไปวันๆตามหน้าที่ที่เกิดในผืนแผ่นดินนี้เท่านั้น ถามว่ารู้สึกผูกพันไหม? อาจจะมีบ้าง แต่ก็ไม่มากเพราะย้ายไปอยู่ที่สเปนตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบ

ก่อนหน้านี้ “เมสซี่” หวังที่จะประสบความสำเร็จกับทีมชาติ แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกที่บราซิลเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หรือล่าสุดคือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอเมริกาใต้เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ที่แพ้ในรอบชิงชนะเลิศเหมือนกัน จนทำให้เจ้าตัวประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้วครั้งนึง

มาถึงตอนนี้ เจ้าตัวยิ่งไม่มีความสุขกว่าเดิม จากฟอร์มการเล่นในทีมชาติที่ไม่น่าประทับใจ ถึงเกมล่าสุดจะเอาชนะ “โคลัมเบีย” 3-0 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มาได้ แต่ฟอร์มของทีมก่อนหน้านี้แทบไม่เป็นสัปปะรด แพ้ “บราซิล” 0-3 แพ้ “ปารากวัย” 0-1 เสมอ ”โบลิเวีย” 2-2 จนสถานการณ์ที่จะไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย “เสี่ยง” มาก

ส่วนเรื่องนอกสนาม ก็ “เยอะ” ไม่แพ้กัน เพราะตราบใดที่เจ้าตัวยังไม่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติ ตราบนั้นก็ถูกสื่อมวลชนและแฟนบอลอาร์เจนติน่าโจมตี โดยเฉพาะเวลาที่กลับมาชาติบ้านเกิด จนมีเรื่องหลุดออกมาว่าเจ้าตัวไม่มีความสุขทุกครั้งที่ต้องกลับมาแผ่นดินแม่ของตัวเอง

ไม่นับกรณีล่าสุดที่พร้อมใจกับเพื่อนร่วมทีม แบนไม่ให้สัมภาษณ์สื่อหลังจากเกมกับ “โคลัมเบีย” เพราะสื่อมวลชนแห่งหนึ่งในประเทศ ดันไปเสนอข่าวในแคมป์ทีมชาติว่า มี “เอเซเกล ลาเวซซี่” ดูดปุ้นหรือ “พี้กัญชา” กันในแคมป์ทีมชาติ

มากกว่านั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังมีเรื่องที่เจ้าตัวเคลียร์เงินค่าจ้างให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทีมที่สมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่าติดค้างอยู่หลายเดือน เรียกว่ามีเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันที่มาอยู่กับบาร์เซโลน่า แต่อย่างน้อยก็ยังได้เห็นมุมดีๆในตัวเมสซี่ในเรื่องนี้

ถ้าเปรียบเทียบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” เรื่องความสำเร็จในระดับสโมสร หรือส่วนบุคลลอาจจะมากกว่านิดๆ แต่ถ้าเอาเรื่องทีมชาติ คงต้องยอมถอยเพราะ “โรนัลโด้” ฝันเป็นจริงแล้วจากการที่ “โปรตุเกส” ได้แชมป์ยูโรที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม “โรนัลโด้” อายุ  31 ปีแล้วกว่าจะประสบความสำเร็จกับทีมชาติครั้งแรก แถมต้องรอนานกว่า 10 ปีนับจากฟุตบอลยูโร รอบชิงฯ ในปี 2004 ที่เจ้าตัวได้แค่รองแชมป์เจ็บปวด

สุดท้ายนี้คงเป็นบททดสอบสำคัญของ “เมสซี่” ว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตลอดกาลนับตั้งแต่เคยมีมา