ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2557 “ทีมชาติไทย” มีโปรแกรมลงทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนหรือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014” รอบชิงชนะเลิศ
วันที่ 20 ธ.ค. 2557 “ขุนพลช้างศึก” ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ที่ประเทศมาเลเซีย กับสนามที่ได้ชื่อว่า “นรกทีมเยือน” อย่างบูกิต จาลิล ท่ามกลางแฟนบอลเสือเหลืองเกือบ 90,000 คน หลังจากนัดแรกเราเก็บชัยชนะที่ราชมังคลากีฬาสถานมาได้ก่อน 2-0

โดยนัดที่สองนี้ กลายเป็นทีมชาติมาเลเซียที่กุมความได้เปรียบ เมื่อขึ้นนำทีมชาติไทยไปถึง 3-0 ตั้งแต่ยังไม่ครบหนึ่งชั่วโมงแรกของเกม สกอร์รวมพลิกกลับมานำไทย 3-2 โอกาสคว้าแชมป์อยู่แค่เอื้อม
แต่แล้วในช่วง 8 นาทีสุดท้าย ขุนพลนักเตะไทยก็มายิงคืน 2 ประตูรวด แม้จบเกมจะพ่ายไป 2-3 แต่สกอร์รวม 2 นัด ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายชนะ 4-3 สิ้นสุดการรอคอย 12 ปี ทวงบัลลังก์จ้าวอาเซียนกลับมาได้สำเร็จ ท่ามกลางน้ำตาแฟนบอลมาเลเซียทั้งประเทศ
หลังการแข่งขัน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เผยกับสื่อมวลชนถึงสาเหตุที่ลูกทีมพลิกสถานการณ์กลับมาได้สำเร็จว่า

“นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระองค์ท่านทรงรับสั่งให้ราชเลขาฯส่วนพระองค์ โทรศัพท์มาให้กำลังใจนักเตะในช่วงพักครึ่ง หลังจากโดนนำอยู่ 0-2″
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่เผยแพร่ออกไปแล้ว ทำให้พสกนิกรและแฟนบอลชาวไทยปลื้มปีติกันทั่วประเทศ!
หลังจากนั้น นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงเหตุการณ์นี้ว่า

“จากการที่ทุกคนทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯโทรศัพท์ไปแสดงความห่วงใยกับทีมนักเตะไทยนั้น ผมขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง”
“โดยนัดแรกทางคณะแพทย์ได้กราบบังคมทูลว่าทีมนักเตะไทยมีแข่งกับมาเลเซีย ท่านก็ทรงติดตามทอดพระเนตรการถ่ายทอดสด แต่ทรงทอดพระเนตรครึ่งหลังเพียงครึ่งเดียว”
“ส่วนนัดที่ 2 ที่ไปแข่งที่มาเลเซีย ทางทีมแพทย์ก็ได้กราบบังคมทูลเช่นกันว่าจะมีแข่งในเวลา 19.00 น. จากนั้นท่านบรรทมไปช่วงหนึ่ง และท่านก็ตื่นบรรทมเองในช่วง 19.00 น.”

“พระองค์ทรงรับสั่งให้เปิดทีวีเพื่อจะทอดพระเนตรฟุตบอล แสดงให้เห็นถึงความตั้งพระราชหฤทัยจริงๆ”
“และเมื่อท่านทอดพระเนตรจนจบครึ่งแรก ทีมไทยถูกนำอยู่ 0-2 ท่านก็รับสั่งให้ไปตามรองราชเลขาธิการมาเข้าเฝ้าฯ และให้โทรไปหาผู้จัดการทีมฟุตบอลไทยที่มาเลเซีย”
“พร้อมมีรับสั่งว่า ‘ฝากบอกว่าเราติดตามฟุตบอลอยู่ ขอส่งกำลังใจไปให้’ นั่นเอง”
———————————————–
พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

