กัลโช่อารมณ์เปลี่ยน

   

14

   

แค่สัปดาห์เดียวครับ อารมณ์ของกัลโช่ เซรี่ อาคงต้องบอกว่าเปลี่ยนไปพอสมควรเลยครับ หลังศึกดาร์บี้ อิตาลี ที่เผยให้เห็นว่ายูเว่ไม่ได้ยอดเยี่ยมไร้เทียมทานอะไรขนาดนั้น

 

สัปดาห์ก่อน เมื่อคราวที่พวกเขาชนะซัสซูโอโล่ 3-1 ทีมม้าลายของอัลเลกรี้ โดนยกยอปอปั้นดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ อย่างกัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต ฉบับ 1 วันให้หลังเกมดังกล่าวก็ถึงกับเปรียบเทียบสไตล์การเล่นของพวกเขากับบาร์เซโลน่า

 

ย้อนไปอีกก็มีคนบอกว่า ปัญหาของยูเวนตุสไม่ใช่ว่าจะได้แชมป์หรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าจะได้แชมป์เมื่อไหร่

 

ทว่าชัยชนะของอินเตอร์ ที่ซาน ซิโร่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้อะไรที่พูดถึงยูเว่ว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ถ้าเป็นในสภาผู้แทน คงต้องมีการถอนคำพูดกันบ้าง แต่คงไม่ถึงกับต้องลบทิ้งหมด เพราะยังไงเสียยูเว่ก็ยังถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะเป็นแชมป์อยู่

 

เหมือนกับว่าเซรี่ อา เพิ่งจะเริ่มเปิดฉากยังไงยังงั้นครับ เพราะฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของอินเตอร์นี่เอง ที่ทำให้บรรยากาศในเซรี่ อา เปลี่ยนไปมาก เพราะอย่างน้อยที่คิดว่ายูเว่จะนอนมา ก็คงจะไม่ถึงขนาดนั้น เพื่อแชมป์แล้วอาจจะต้องพยายามหนักกว่าที่หลายๆ คนคิด

 

 

ต้องให้เครดิตอินเตอร์ มิลาน ที่ทำฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถสู้กับแชมป์ผู้ยิ่งยงได้อย่างไม่เป็นรอง ช่วง 45 นาทีแรก ที่สกอร์จบ 0-0 ก็เรียกได้ว่าสู้ได้สูสี โอกาสพังประตูงามๆ ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน

 

เป็นอินเตอร์ที่เล่นผิดไปจากที่ใครๆ คาดเยอะ เพราะก่อนเกมเชื่อกันว่า งูใหญ่ที่เพิ่งจะขายหน้าแพ้เบียร์เชว่าคาบ้านในยูโรป้า ลีกมา คงจะไม่ใช่คู่มือม้าลาย ขณะที่สถิติการเจอกันก่อนหน้านั้น แม้ในบ้านของตัวเอง อินเตอร์ก็ไม่ชนะยูเว่ที่นี่มานานแล้ว ครั้งก่อนหน้าที่ทำได้ก็คือปี 2010

 

เป็นสมัยที่อินเตอร์รุ่งเรืองสุดขีดนู่นเลยที่อินเตอร์มีชัยเหนือยูเวนตุส เวลาผ่านไป 6 ปี ทีมงูใหญ่ เรียกฟอร์มในยุคทอง ทำให้พวกเขากลับมาชนะยูเวนตุสได้อีกครั้ง แฟนบอลก็ได้เฮกันดังๆ ฉลองกันชื่นมื่นไม่ต่างกับเมื่อประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

 

เพราะอะไร อยู่ๆ ยูเว่ถึงได้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ก็ต้องย้อนไปดูเกมที่ซาน ซิโร่ กันครับ อย่างหนึ่งที่คนตั้งคำถาม ก็คงจะไม่พ้นการจัดตัวแบบแปลกๆ ของแม็กซ์ อัลเลกรี้ ที่นัดนี้ใส่ชื่อของกอนซาโล่ อิกวาอิน เป็นแค่ตัวสำรอง และลงเล่นแค่ 20 นาทีกว่าๆ

 

 

ขณะที่ตำแหน่งของมิราเลม ปานิช ก็เหมือนกับว่า อัลเลกรี้ ใช้ไม่ถูกงานครับ เพราะการถอยให้เขาไปเล่นหน้าแผงหลังเพื่อทำเกม ทำให้เขาห่างจากพื้นที่อันตรายหน้าประตูอินเตอร์เกินไป ส่งผลให้เกมนี้ปานิชเกือบจะหายไปทั้งเกม

 

เห็นชัดเลยครับว่ามิดฟิลด์ 3 ตัวของยูเวนตุสเล่นไม่เข้ากัน กลายเป็นอินเตอร์ที่ดูเด่นกว่าในเกมตรงกลางสนาม โดยเฉพาะครึ่งหลัง

 

นักเตะที่วันนี้เด่นมากทางฝั่งของอินเตอร์ในตำแหน่งมิดฟิลด์ก็คือเจา มาริโอ ที่ทำเกมไปทั่ว ขณะที่บาเนก้าก็เริ่มจะเรียกฟอร์มกลับมาได้แล้ว

 

ขณะที่อิคาร์ดี้ วันนี้ก็วิ่งไล่ทุกลูก สมกับที่สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม เหมือนจะเป็นอินเตอร์ที่กระหายกว่ายังไงยังงั้นครับ

 

นัดนี้เป็นยูเวนตุสที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากการเข้าทำตรงจุดอ่อนของทีมงูใหญ่นั่นคือการปิดเกมตรงริมเส้น และก็เป็นอเล็กซ์ ซานโดร ที่เปิดจากด้านซ้ายให้สเตฟาน ลิคห์สไตเนอร์ ยิงเข้าไปง่ายๆ ในนาที 66

 

 

ทว่า 2 นาทีเท่านั้นเอง อินเตอร์มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่บาเนก้าเปิดคอร์เนอร์ไปหน้าประตูให้อิคาร์ดี้ โหม่งลูกเข้าไปที่เสาสอง ยูเวนตุสเสียประตูจากลูกเตะมุมอีกแล้ว นับรวมกับสามนัดที่ผ่านมาก็เป็นประตูที่ 3 ที่พวกเขาเสียจากลูกเตะมุม

 

มาถึงนาที 78 อินเตอร์มาได้ประตูชัยจากความผิดพลาดของอซาโมอาห์ที่ทำเสียบอล ก่อนที่อิคาร์ดี้จะปั่นไซด์จากสุดเส้นหลังให้เปริซิชโหม่งย้อนศรเข้าไปอีก ช่วงเวลานี้เกมรับของยูเวนตุสไม่เป็นขบวนจริงๆ ลักษณะแบบนี้ไม่ได้เห็นทีมม้าลายเป็นมานานแล้ว

 

จบเกมก็เป็นอินเตอร์ที่ชนะไป ทำให้บรรยากาศในแคมป์คงจะคึกคักทีเดียว พวกที่บอกว่าแฟรงค์ เดอ บัวร์ไปเถอะ คงจะสงบปากสงบคำ เพราะวันนี้แผนของเขาแม้จะเสี่ยง (เพรสซิ่งสูงถึงบุฟฟ่อน) แต่ก็ได้ผล

 

ส่วนยูเวนตุส จะว่าไปก็โชคดีที่โอกาสให้แก้ตัวมาไว นั่นคือพุธนี้จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของกายารี่ พวกม้าลายคงจะอยากระบายเต็มแก่