ผลการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2017 รอบชิงชนะเลิศ
จบเกม: เรอัล มาดริด (สเปน) 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
สนาม: เทเลคอม อารีน่า ประเทศมาซิโดเนีย
ครึ่งแรก:
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาในชุดเหย้าสีแดงกางเกงขาว ส่วนทางด้าน เรอัล มาดริด มาในชุดเยือนสีดำกางเกงดำ ทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เขี่ยบอลเริ่มเกมก่อน
นาทีที่ 2 แกเร็ธ เบล สปีดพาบอลเลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนถูก เนมานย่า มาติช เข้ามาสกัดเคลียร์ออกหลัง เป็นเตะมุมของ เรอัล มาดริด โทนี่ โครส เปิดเตะมุมเข้ามา แนวรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงช่วยเคลียร์ออกไปได้ นาทีถัดมา แกเร็ธ เบล ได้โอกาสทอง วอลเล่ย์เต็มข้อแต่บอลหลุดออกนอกกรอบไปแบบน่าเสียดาย
นาทีที่ 8 เฮนริค มคิตาร์ยาน พยายามครอสบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ลูก้า โมดริช เคลียร์ออกไปได้
นาทีที่ 10 ปีศาจแแดง แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามเจาะแนวรับ เรอัล มาดริด แต่ไม่เป็นผล นาทีถัดมา เรอัล มาดริด ได้เล่นเกมสวนกลับ อิสโก้ พยายามไหลบอลทะลุช่องไปให้เพื่อนในกรอบเขตโทษ แต่ลึกเกินไป ราชันชุดขาวพลาดโอกาสทำประตูขึ้นนำ
นาทีที่ 15 เรอัล มาดริด เปิดเตะมุมเข้ามาโดย โทนี่ โครส คาเซมิโร่ โขกเน้นๆ หน้าปากประตูบอลพุ่งไปชนเสากระเด้งออกมา จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เคลียร์ออกมาได้ รอดการเสียประตูไปแบบหวุดหวิด
⚽️GOAL !!! นาทีที่ 24 เรอัล มาดริด 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ราชันชุดขาว ออกนำจากจังหวะ วางบอลยาวสวยๆ ของ การ์บาฆาล ให้กับ คาเซมิโร่ ที่หลุดกับดักล้ำหน้า เข้าไปชาร์จด้วยซ้าย บอลพุ่งตุงตาข่าย
นาทีที่ 30 กรรมการเป่าหยุดเกมชั่วคราว เพื่อให้นักเตะพักดื่มน้ำในช่วง คูลลิ่ง เบรค
นาทีที่ 33 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสเปิดฟรีคิกเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ เอร์เรร่า เป็นคนเตะเปิดฟรีคิกบอลแรงเลยออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 35 ลูกากู เกือบได้โอกาสหลุดเดี่ยว แต่ไลน์แมนยกธล้ำหน้าไปก่อน นาทีถัดมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามเจาะแนวรับราชันชุดขาวเพื่อทวงประตูคืน แต่ไม่เป็นผล
นาทีที่ 41 เจสซี่ ลินการ์ด ได้รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม จากจังหวะเข้าสกัดฟาวล์อันตรายจากด้านหลังใส้ อิสโก้
นาทีที่ 45 ลูกากู ได้โอกาสเทคตัวขึ้นโขก แต่ไปตรงตั เคย์เลอร์ นาบาส รับติดมือ
จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ออกนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0
ครึ่งหลัง:
แมนฯ ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนตัวคนแรก ถอด เจสซี่ ลินการ์ด ออก จากนั้นส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงสนามแทน
นาทีที่ 48 โทนี่ โครส ได้โอกาสปั่นไกล บอลพุ่งเข้าหาประตู แต่ เด เกอา ปฏิกิริยาไว เซฟไว้ได้หวุดหวิด แมนฯ ยูไนเต็ด รอดการเสียประตูที่ 2 ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
⚽️GOAL !!! นาทีที่ 52 เรอัล มาดริด 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประสานงานกันอย่างสวยงาม แกเร็ธ เบล ไหลบอลทะลุช่องให้ อิสโก้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิง เด เกอา หมดสิทธิป้องกัน
นาทีที่ 53 เอร์เรร่า วางบอลยาวสวยๆ มาหน้ากรอบ ป็อกบา ได้โอกาสพุ้งตัวโหม่งจังหวะแรก แต่เป็นซูเปอร์เซฟของ เคย์เลอร์ นาบาส บอลมาเข้าทาง ลูกากู ซัดโล่งๆ เหินข้ามคานออกไปไกลแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 56 โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือปีศาจแดงตัดสินใจเปลี่ยนตัวคนที่ 2 ส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ ลงสนามแทน อันเดร์ เอร์เรร่า
นาทีที่ 60 คานที่ 2 ของ เรอัล มาดริด แกเร็ธ เบล บรรจงยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลชนคานเต็มๆ กระเด้งออกมา เพื่อนตามซ้ำไม่ทัน
⚽️GOAL !!! นาทีที่ 62 เรอัล มาดริด 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตูแรกอย่างเป็นทางการของ ลูกากู กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วเรียบร้อย จังหวะแรก เนมานย่า มาติช ยิงไกลเต็มข้อ นาบาส ล้มตัวเซฟไว้ได้ แน่บอลกระเฉาะมาเข้าทาง ลูกากู ซ้ำดาบสองไม่เหลือ ปีศาจแดง ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2
นาทีที่ 72 ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมพัก คูลลิ่ง เบรค ในช่วงครึ่งหลัง
นาทีที่ 74 ซีดาน กุนซือ เรอัล มาดริด ตัดสินใจส่ง ลูคัส บาซเกซ และ มาร์โก อเซนโซ่ ลงสนาม แทน อิสโก้ และ แกเร็ธ เบล ตามลำดับ
นาทีที่ 79 รามอส และ เฟลไลนี่ ปะทะกันจนได้รับบาดเจ็บ เฟลไลนี่ หัวแตกต้องปฐมพยาบาลในสนามพร้อมเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ ก่อนยังเล่นต่อได้ปกติ
นาทีที่ 81 มคิตาร์ยาน จ่ายบอลต่อให้ แรชฟอร์ด หลุดไปดวลเดี่ยวกับ นาบาส แต่ แรชฟอร์ด กลับยิงหลุดเสาออกไปแบบไม่ได้ลุ้น79′ รามอส และ เฟลไลนี่ ปะทะกันจนได้รับบาดเจ็บ เฟลไลนี่ หัวแตกต้องปฐมพยาบาลในสนามพร้อมเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ ก่อนยังเล่นต่อได้ปกติ
นาทีที่ 83 เรอัล มาดริด เปลียนตัวคนสุดท้าย ส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงสนามมาดวลทีมเก่าแทน คาริม เบนเซม่า
นาทีที่ 84 ดาเนี่ยล การ์บาฆาล ได้รับใบเหลืองจากจังหวะไปทำฟาวล์ มาร์คัส แรชฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกระยะหวังผล แต่ แรชฟอร์ด ยิงเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 85 เซร์คิโอ รามอส กัปตัน เรอัล มาดริด เข้าตัดฟาวล์ ป็อกบา ได้รับใบเหลืองไปอีกคน
นาทีที่ 90 ก่อนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มารูยาน เฟลไลนี่ ได้โอกาส โขกหน้าปากประตู แต่ไม่ผ่านมือ นาบาส
ผู้ตัดสินที่ 4 ยกป้ายทดเวลา 7 นาที จากจังหวะปฐมพยายาม เฟลไลนี่
นาทีที่ 90+4 มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำฟาวล์ ลูคัส บาซเกซ ได้รับใบเหลืองเป็นคนที่ 2 ของทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นาทีที่ 90+6 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นจังหวะสุดท้ายจากลูกฟรีคิก ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ก็ยิงหลุดกรอบออกไปไกลไม่ได้ลุ้น
จากนั้นผู้ตัดสินเป่าจบเกม เรอัล มาดริด บดชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ 2-1 ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2017 ไปครองป้องกันแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ได้สำเร็จ และเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ของสโมสร อีกทั้งเป็นการคว้าแชมป์ที่ 3 ของฤดูกาล 2016/2017 อีกด้วย
